G.9 ปีการศึกษา 2554
Guidance Counseling Section
วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555
ผลงานแนะแนว
My Life
ผลงานวิชาแนะแนว เรื่อง My Life เป็นการเขียน Mind mapping เกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งนักเรียนมีความสามารถในการวางแผนการเรียนและทราบเป้าหมายในการเรียนต่อเป็นอย่างดี ซึ่งหัวข้อย่อยเกี่ยวกับการทำ mind mapping ได้แก่ อาชีพที่ต้องการทำ คณะ/มหาวิทยาลัยที่จะเข้าศึกษาต่อ องค์ประกอบ Admission ของคณะนั้นๆ และแนวทางในการเตรียมตัวของนักเรียน
ตัวอย่างผลงานการทำ mind mapping ของนักเรียน
วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์
เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์อย่างไรดี
คำถามที่มักถามเป็นประจำ และควรเตรียมตัวไปให้ได้ ได้แก่
- แนะนำตัวเอง
- คิดอย่างไรถึงมาเรียนที่นี่ / มาเรียนที่คณะนี้
- อนาคตอยากเป็นอะไร
- อาชีพนี้ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
- ข่าว / เหตุการณ์ปัจจุบันที่น่าสนใจ
บางครั้งคณะกรรมการก็ถามคำถามที่กวนอารมณ์ ยุแหย่ให้โมโหหรือรำคาญ เช่น
- คิดว่าเรียนไหวไหม
- คุณเลือก .... อันดับ 1 นี่ แล้วคุณจะมาเรียนที่เราทำไม คุณไม่ไปเรียนที่คุณเลือกไว้อันดับ 1 ล่ะ
- เกรดแค่นี้เรียนไหวหรอ
- คิดว่าจะทำตามระเบียบคณะได้มั้ย
- บอกข้อดี / ข้อเสียของตัวเอง
** ยกตัวอย่างสถานการณ์สมมติในห้องสัมภาษณ์ **
นักเรียน : สวัสดีครับ ผมชื่อ ........... ครับ
--- ยิ้มและยืนรอ ---
กรรมการ : เชิญนั่ง
นักเรียน : ขอบคุณครับ
--- ยกมือไหว้ ---
กรรมการ : แนะนำตัวให้กรรมการรู้จักหน่อย
นักเรียน : สวัสดีครับ ผมชื่อ ................ มาจากโรงเรียน........... มาสอบ.................. เพราะ............
ครอบครัวผม................ ผมเรียนจบระดับชั้น ..................... ความสามารถของผม คือ....ฯลฯ
กรรมการ : รอฟังผลวันที่ ..... นะ
นักเรียน : ขอบคุณครับ
---- กล่าวขอบคุณ และยกมือไหว้ เลื่อนเก้าอี้เก็บ ปิดประตูให้เรียบร้อย ----
วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
คอนเสิร์ตราชมงคล ครั้งที่ 17
My idol is ...?
ประมวลภาพบรรยากาศคอนเสิร์ตมาให้ชมกัน
เรียกน้ำย่อยด้วยเพลง Titanic โดยวง Orchestra สุดอลังการ
การแสดงของวง Symphonic Band เพลง The Pink Panter เรียกความสนใจจากผู้ฟังได้เป็นอย่างดี
นักเรียนสายอังกฤษดนตรี นั่งฟังด้วยความประทับใจ
ยิ่งมืดยิ่งสนุก
จบงานนักเรียนสายอังกฤษดนตรีกลับไปด้วยความประทับใจกับกิจกรรมที่ได้ทั้งความรู้และความบันเทิง
ทุกคนมีฝัน มีแรงบันดาลใจ ต่างคนต่างมุ่งมั่น ตั้งใจ ใส่ความพยายามเพื่อที่จะไปถึงจุดหมาย เช่นเดียวกับ Idol ของแต่ละคน
การสอบสัมภาษณ์
เทคนิคการสอบสัมภาษณ์
วัตถุประสงค์หลักของการสมัภาษณ์เข้าศึกษาต่อก็คือ Put the right man in the right job, right place, right time. โดยการคัดเลือกนักเรียนเพื่อให้นักเรียนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถ มีความพร้อมที่จะตั้งใจเรียนและประสบความสำเร็จในการเรียน เพื่อเป็นคนที่สู่สังคมต่อไป
เทคนิคการสอบสัมภาษณ์ แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ
1. การกรอกใบสมัคร เริ่มตั้งแต่การกรอกใบสมัคร ต้องกรอกด้วยความเรียบร้อย ลายมือบรรจง และมีข้อมูลครบถ้วน เพียงพอ มีแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้
2. ก่อนการสัมภาษณ์
2.1 2 - 3 วัน ก่อนสอบสัมภาษณ์
- เตรียมตัวให้พร้อม เตรียมชุดที่จะใส่ในวันสัมภาษณ์และเอกสารต่างๆ และแฟ้มสะสมผลงานให้พร้อม
- ตรวจสอบข้อมูลคณะ / มหาวิทยาลัย / อาชีพในอนาคต ต้องเตรียมตอบคำถามความรู้ทั่วไป เหตุการณ์ข่าวสารปัจจุบัน
- ตรวจสอบเส้นทางมหาวิทยาลัยที่จะไปสอบสัมภาษณ์ วันเวลาและห้องให้ชัดเจน
2.2 ก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์
- ตรวจสอบความเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า แฟ้มสะสมผลงาน และปิดโทรศัพท์มือถือให้เรียบร้อย
- รอหน้าห้องสอบสัมภาษณ์ด้วยความสบายใจ ไม่ควรวิตกกังวลใดๆ
- สูดหายใจลึกๆ และเดินเข้าห้องสัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจ
2.3 ขณะเข้าห้องสัมภาษณ์
- เคาะประตูและขออนุญาตก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ ปิดประตูให้เบาที่สุด
- สวัสดีทักทายคณะกรรมการด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
- กล่าวขอบคุณเมื่อคณะกรรมการเชิญให้นั่ง
- นั่งหลังตรง มือวางบนตัก พูดจาด้วยถ้อยคำสุภาพ ลงท้ายด้วยครับ/ค่ะ และยิ้มแย้มเข้าไว้
- กล่าวขอบคุณเมื่อสัมภาษณ์เสร็จ ปิดประตูเบาที่สุด
วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
องค์ประกอบ Admission ปี 56
การปรับเปลี่ยนองค์ประกอบ Admission ใหม่เริ่มใช้ปี 56
กลุ่มที่ 1 วิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่ปรับ คือ
สัตวแพทยศาสตร์ สหเวชศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬา พลศึกษา สุขศึกษา
GPAX 20% O-NET 30% GAT 20% และ PAT2 30%
ทันตแพทยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์
GPAX 20% O-NET 30% GAT 30% และ PAT2 20%
เภสัชศาสตร์
GPAX 20% O-NET 30% GAT 30% และ PAT2 20%
เภสัชศาสตร์
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% และ PAT2 40%
กลุ่มที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพและชีวภาพ ปรับสาขา
วิทยาศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% PAT1 10% และ PAT2 30%
สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% PAT1 20% และ PAT2 20%
สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% PAT1 20% และ PAT2 20%
กลุ่มที่ 3 วิศวกรรมศาสตร์ เหมือนเดิม คือ
GPAX 20% O-NET 30% GAT 15% PAT2 15% และ PAT3 20%
GPAX 20% O-NET 30% GAT 15% PAT2 15% และ PAT3 20%
กลุ่มที่ 4 สถาปัตยกรรมศาสตร์ เหมือนเดิม คือ
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% และ PAT4 40%
กลุ่มที่ 5 เกษตรศาสตร์ ปรับสาขา
เกษตรศาสตร์ อุตสาหกรรมการเกษตร วนศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% PAT1 10% และ PAT2 30%
กลุ่มที่ 6 บริหาร พาณิชศาสตร์ การบัญชี การท่องเที่ยวและโรงแรม เศรษฐศาสตร์ เหมือนเดิม คือ
6.1 บริหารธุรกิจ พาณิชยศาสตร์ การบัญชี เศรษศาสตร์
GPAX 20% O-NET 30% GAT 30% และ PAT1 20%
6.2 การท่องเที่ยวและโรงแรม
รูปแบบที่ 1
GPAX 20% O-NET 30% และ GAT 50%
GPAX 20% O-NET 30% และ GAT 50%
รูปแบบที่ 2
GPAX 20% O-NET 30% GAT 40% และ PAT7 10%
กลุ่มที่ 7 ครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์
รูปแบบที่ 1
GPAX 20% O-NET 30% GAT 20% และ PAT5 30%
รูปแบบที่ 2
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% PAT5 20%
--- และเลือกสอบ PAT 1/2/3/4/6/7 วิชาใดก็ได้ 1 วิชา 20%
กลุ่มที่ 8 ศิลปกรรมศาสตร์ ปรับ สาขา
วิจิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์ ดุริยางศิลป์ นาฎศิลป์ ศิลปะการออกแบบพัสตราภรณ์ และศิลปะการออกแบบหัตถอุตสาหกรรม
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% เลือกสอบ PAT4 หรือ 6 40%
วิจิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์ ดุริยางศิลป์ นาฎศิลป์ ศิลปะการออกแบบพัสตราภรณ์ และศิลปะการออกแบบหัตถอุตสาหกรรม
GPAX 20% O-NET 30% GAT 10% เลือกสอบ PAT4 หรือ 6 40%
กลุ่มที่ 9 มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
สาขานิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ มนุษยศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมวิทยา สังคมสงเคราะห์ศาสตร์
ปรับพื้นฐานวิทยาศาสตร์
GPAX 20% O-NET 30% GAT 30% และ PAT1 20%
พื้นฐานศิลปะศาสตร์
รูปแบบที่ 1 ไม่มีการปรับเปลี่ยน
GPAX 20% O-NET 30% และ GAT 50%
รูปแบบที่ 2
GPAX 20% O-NET 30% GAT 30% และ PAT7 20%
สาขานิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ มนุษยศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมวิทยา สังคมสงเคราะห์ศาสตร์
ปรับพื้นฐานวิทยาศาสตร์
GPAX 20% O-NET 30% GAT 30% และ PAT1 20%
พื้นฐานศิลปะศาสตร์
รูปแบบที่ 1 ไม่มีการปรับเปลี่ยน
GPAX 20% O-NET 30% และ GAT 50%
รูปแบบที่ 2
GPAX 20% O-NET 30% GAT 30% และ PAT7 20%
ศ.ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ค่าน้ำหนักองค์ประกอบที่ปรับครั้งนี้จะใช้ในการแอดมิชชั่นปีการศึกษา 2556 โดยการปรับดังกล่าว เพื่อให้คณะสามารถคัดเลือดเด็กได้ตรงตามความถนัดที่แท้จริง และถือว่าเป็นการปรับเล็ก ไม่ใช่การปรับใหญ่ ดังนั้น ทปอ. ไม่จำเป็นต้องประกาศให้ทราบล่วงหน้า 3 ปี ส่วนการปรับองค์ประกอบแอดมิสชั่นส์ใหญ่นั้น ทปอ.ยังไม่ได้หารือ ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรปรับบ่อยเพราะจะทำให้เกิดความสับสนและไม่เป็นธรรมแก่เด็ก แต่หากใช้ไปสักระยะแต่พบว่าเกิดปัญหาก็ค่อยปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)







